Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 129

Warning: Illegal string offset 'active' in /home/www/virtual/doggethome.com/htdocs/templates/ja_purity/html/pagination.php on line 135

สัปเพเหระ เรื่องหมาๆแมวๆ

A short description about your blog
picexx01

 

 

 


Tagged in: Untagged 
picexx01

 

 


Tagged in: Untagged 
picexx01

 

 

 


Tagged in: Untagged 
picexx01

 

 


Tagged in: Untagged 
picexx01

 

 

 


Tagged in: Untagged 
picexx01

 

 

ในเวลาปกติเจ้าเหมียวจะดูรักสันโดษไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร และมีโลกส่วนตัวสูง แต่ถ้าหากได้พบกับอาหารเมื่อไหร่ เป็นต้องวิ่งเข้าหาทุกครั้งไป และคลอเคลียเจ้านายจนกว่าจะได้ของไปกิน ไม่ว่าจะเป็นของหวานหรือของคาวก็ตาม ถึงแม้ว่าเพิ่งกินอาหารของตัวเองหมดไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าแมวของตัวเองกินจุ ทั้งที่จริงแล้วพฤติกรรมเช่นนี้กำลังบ่งบอกว่า แมวกำลังโดนโรคอันตรายคุกคามอยู่


Tagged in: Untagged 
picexx01

 

 

 

เชื่อว่าเจ้าของหลายคงกำลังคิดและหาทางทำให้แมวของตัวเองมีความสุข แต่ทั้งนี้เจ้าของไม่สามารถจะพูดคุยกับแมวโดยตรงได้ว่าต้องการอะไรและควรทำตัวอย่างไรดี เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไรให้แมวก็ดูเฉยชาไปเสียหมด ยกเว้นเวลาให้อาหารเท่านั้นแหละที่อาจจะทำให้แมวดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย ฉะนั้นในวันนี้เราก็เลยนำหลากหลายวิธีที่ช่วยสร้างความสุขให้กับแมวมาฝากกัน

1. ปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสม

ยามว่างของแมวนอกจากกินอาหารกับนอนแล้ว ก็จะชอบนอนบนที่สูงชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อย ๆ และส่วนมากจะอยู่บริเวณที่มีแดดส่องถึง อย่างเช่น ขอบหน้าต่าง ประตูด้านหน้า หรือกำแพง เพราะฉะนั้นสถานที่ที่เหมาะสำหรับแมวควรจะมีอุณภูมิที่อบอุ่น และไม่เปิดแอร์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำจนเกินไปนัก สำหรับวันที่มีอากาศค่อนข้างเย็นควรเสริมที่นอนด้วยผ้าอุ่น ๆ หรือเปิดฮีทเตอร์ก็ได้

2. พาแมวไปเดินเล่น

เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยรักอิสระและอยากรู้อยากเห็น ฉะนั้นเจ้าของควรจะปล่อยแมวให้ออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้าง แล้วแมวก็ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น ไม่มีเวลาเพียงพอก็อาจจะติดบานพับสวิงไว้ที่ประตู ให้แมวสามารถเดินเข้าออกเองก็ได้ และหลังจากที่แมวกลับบ้านแล้ว เจ้าของควรตรวจเช็กด้วยว่ามีอาการบาดเจ็บหรือบาดแผลติดตัวมาหรือไม่

3. พูดคุยกับแมว

ช่วงที่อยู่กับแมวควรพูดคุยกับแมวบ้างถึงแม้จะฟังไม่เข้าใจ แต่พวกมันก็สามาถรับรู้ความรู้สึกได้เดียวกับสุนัข โดยเจ้าของสามารถสังเกตได้จากเสียงครืดคราดในลำคอที่แมวร้องออกมา ซึ่งมีความหมายแฝงว่าตอนนี้มีความสุขมากนั่นเอง นอกจากนี้เวลาที่แมวอะไรดี ๆ ควรจะชมและให้กำลังใจด้วยคำพูดหรืออาหารด้วย

4. กระตุ้นด้วยของเล่น

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ของเล่น นอกจากจะช่วยให้แมวมีความสุขมากขึ้นแล้ว ของเล่นบางชนิดยังช่วยกระตุ้นทักษะต่าง ๆ ของแมวด้วย ทั้งการเคลื่อนไหว การมองเห็น กลิ่น และสัมผัส นอกจากนี้เจ้าของควรจะหาเวลามาเล่นกับแมวของตัวเองบ้าง เพื่อให้แมวรู้สึกว่ามีความผูกพันกับเจ้าของมากยิ่งขึ้น ส่วนวิธีเลือกซื้อของเล่นก็ง่าย ๆ แค่เพียงดูให้เหมาะสมกับขนาดของลำตัวและอายุของแมวเม่านั้นเอง

5. แต่งบ้านด้วยใบแคทนิป

นอกจากของเล่นกับอาหารแล้ว เจ้าของควรมีผงแคทนิป ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ กัญชาแมวติดบ้านเอาไว้ โดยนำไปโรยเอาไว้รอบ ๆ ที่นอนของแมวหรือภายในบ้าน กลิ่นของใบแคทนิปจะช่วยบำบัดความเครียด และทำให้แมวมีความสุขสามารถนอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น

6. รักษาความสะอาด

ของใช้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับแมว อย่างเช่น จานใส่อาหาร ถ้วยน้ำ ที่นอน และกระบะทราบควรจะนำไปล้างและทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของแมว โดยทำให้ได้อย่างน้อย 1 - 2 ครั้งต่อสัปดาห์ สำหรับทรายในกระบะแมวควรจะซื้อแบบใช้ครั้งเดียว เพราะนอกจากจะช่วยให้กระบะทรายสะอาดขึ้นแล้ว ยังช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย

7. วางที่ลับเล็บแมว

เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่มีกรงเล็บค่อนข้างแหลมดังนั้นภายในบ้านควรจะมีอุปกรณ์สำหรับลับเล็บแมวเอาไว้ด้วย เนื่องจากโดยปกติแล้วแมวจะลับเล็บของตัวเองให้แหลมคมอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอบข่วนของเล็บแมวบนสิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์ด้วย พื้นที่ที่เหมาะสมก็ควรริมหน้าต่างหรือบริเวณด้านข้างของประตู

หลังจากทราบวิธีสร้างความสุขกับแมวไปแล้ว คงทำให้ทั้งเจ้าของและแมวเข้าใจกันมากขึ้นนะคะ นอกจากนี้แต่ละวิธีนั้นก็ง่ายแสนง่ายไม่มีอะไรซับซ้อน แค่เพียงเจ้าของให้เวลาและใส่ใจดูแลแมวของตัวเองให้มากขึ้นเท่านั้นเอง

Credit kapook.com


Tagged in: Untagged 
picexx01

 

 

 

เชื่อว่าเจ้าของน้องเหมียวทั้งหลายคงจะแสดงความรักต่อเค้าทุกวัน ไม่ว่าจะลูบหัว เกาคาง กอดเค้า ให้รู้ว่าเรารักเค้านะ บางคนก็ถึงกับพูดกับแมว เช่น จะออกบ้านไปทำงานแล้ว ก็จะบอกน้องเหมียวที่้บ้าน ซึ่งตรงนี้แมวรับรู้ได้นะคะว่าเรารักเค้า แต่เอ๊...แล้วเราล่ะจะรู้ได้ยังไงว่า เจ้าเหมียวก็รักเราเหมือนกันนะ ในเมื่อเค้าพูดไม่ได้นิหน่า

แต่ความจริงแล้วแมวจะแสดงออกทางพฤติกรรมให้เรารู้ว่าเค้าก็รักเราเหมือนกัน แล้วแมวแต่ละตัวก็มีวิธีการไม่เหมือนกันด้วยนะแล้วแต่นิสัย ประเภทของเค้าด้วย ถ้าอย่างงั้นเรามาดู 8 วิธีการบอกรักของเจ้าเหมียวกันดีกว่า ...ดูสิว่า เจ้าเหมียวของคุณเค้าบอกรักคุณตรงตามข้อไหนบ้าง

1. กระโดดนั่งตัก แล้วก็ใช้หน้าถูกับตัวคุณ แมวส่วนใหญ่มักจะแสดงออกแบบนี้ เรียกว่าเป็นการแสดงออกแบบสากลก็ว่าได้

2. ส่งเสียงร้องเรียก เมี้ยว เมี้ยว เบา ๆ แล้วก็ทำหน้าอ้อน ๆ ทำตาหวานใส่ แมวที่เรียบร้อยมักจะเป็นแบบนี้

3. กัดที่หน้าแข้ง หรือ ข้อศอกคุณเบา ๆ เป็นการแสดงความรักของแมวระดับจ่าฝูง เพราะพวกนี้จะอ้อนไม่ค่อยเป็น

4. ใช้เท้าหน้าลูบหน้าคุณ หรือ ตบที่หน้าเบา ๆ ลักษณะนี้ก็เหมือนกับความรู้สึกเวลาคุณลูบหน้าคนที่คุณรักนั่นเอง

5. ลูบหน้าคุณแล้วก็ร้องเบา ๆ เค้ากำลังบอกคุณว่า รักเจ้านายมากที่สุดในโลกเลย

6. เอาตัวมาถูที่ขาคุณ แรง ๆ แล้วก็ร้องดัง ๆ เป็นการแสดงความรักของแมวประเภทหัวโจกชอบโวยวาย

7. กระโดดเกาะที่หลังเวลาคุณนั่งลง เป็นการแสดงความรักของ แมวขี้เล่น หรือแมวที่ซุกซน หรือแมวเด็ก ๆ

8. มานอนซุกคุณเวลาคุณนอนหลับ เป็นการแสดงออกว่า รักเจ้าของมาก อยากอยู่ด้วยตลอดเวลา แม้เวลาจะนอนหลับ

Credit kapook.com


Tagged in: Untagged 
picexx01

 

หากจะเปรียบแมวเป็นนักยิมนาสติก็คงไม่ผิดนัก เพราะไม่ว่าจะตกหรือกระโดดลงมาจากความสูงระดับไหน สุดท้ายแล้วก็สามารถกลับมายืนอย่างสง่างามและเดินได้ตามปกติทุกครั้งไป แถมยังไม่มีอาการเจ็บปวดให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ใครต่อใครเรียกขานกันว่า เป็นสัตว์ที่มี 9 ชีวิต ทั้งนี้เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เราจึงขอนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน


Tagged in: Untagged 
picexx01

 

 

 

สุนัขทุกตัวล้วนมีโอกาสเป็น โรคมะเร็งผิวหนัง หรือ Mast cell tumor กันได้ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งสุนัขที่มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง และไม่เคยมีอาการป่วยใด ๆ มาก่อน นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนของร่างกาย ทั้งลำตัว ขา หรือปาก ซึ่งสุนัขสามารถหายขาดจากมะเร็งผิวหนังได้ หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกและรีบรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ดังนั้นในวันนี้เราขอนำข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งชนิดนี้มาฝากกัน เพื่อให้เจ้าของหาทางป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า

สาเหตุ

โดยปกติแล้วแมสเซลล์ (Mast cell) สามารถพบได้ในร่างกายปกติ โดยเซลล์ชนิดนี้มีหน้าที่ตรวจจับสิ่งผิดปกติที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือระคายเคืองบนผิวหนัง แต่กลับเกิดความผิดปกติในกระบวนการดังกล่าว สุดท้ายแมสเซลล์ก็เปลี่ยนตัวเองไปเป็นก้อนเนื้อมะเร็งแทน ซึ่งก้อนเนื้อมะเร็งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระยะด้วยกัน คือ ระยะเริ่มต้นที่มีเพียงความผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ และอาการมีความเจนสามารถสังเกตได้ง่ายขึ้นในระยะต่อมา ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาเชื้อก็จะกระจายไปยังส่วนอื่น ๆ โดยเรียกกันว่ามะเร็งระยะสุดท้าย หรือระยะลุกลามนั่นเอง

วิธีสังเกต

ลักษณะของโรคมะเร็งผิวหนังในสุนัขเกิดจากตุ่มสีแดงเล็ก ๆ บนผิวหนัง คล้ายกับบาดแผลทั่วไป แต่แตกต่างกันตรงที่ก้อนเนื้อมะเร็งผิวหนังจะค่อนข้างนิ่ม สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ และมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สุนัขบางตัวอาจมีเลือดซึมออกมาจากบริเวณที่เป็นด้วย ซึ่งถ้าหากก้อนเนื้อแตกออก ก็จะส่งกลิ่นเหม็นและมีการติดเชื้อตามมาพร้อมกับมีอาการข้างเคียง ได้แก่ โลหิตจาง แผลในกระเพาะอาหาร เป็นต้น

การรักษา

เบื้องต้นสัตวแพทย์จะนำชิ้นเนื้อบางส่วนไปตรวจผ่านกล้องจุลทรรศน์ก่อน เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเป็นเซลล์มะเร็งจริง ๆ หลังจากนั้นก็จะทำการผ่าตัดเพื่อนำก้อนเนื้อทั้งหมดออก และป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ซึ่งถ้าตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกสามารถรักษาโรคมะเร็งผิวหนังให้หายขาดได้ และไม่กลับมาเป็นอีก แต่สำหรับสุนัขที่ติดเชื้อตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป อาจจะต้องทำการรักษาด้วยคีโม (Chemotherapy) หรือเคมีบำบัด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสัตวแพทย์

วิธีป้องกัน

เจ้าของสามารถป้องกันได้โดยการหมั่นเช็กความผิดปกติบนผิวหนังของสุนัขอย่างสม่ำเสมอ หากพบก้อนเนื้อหรือแผลควรจะนำสุนัขไปตรวจร่างกายให้สัตวแพทย์วิเคราะห์อาการ สำหรับสุนัขที่เคยผ่านการผ่าตัดมะเร็งผิวหนังมาแล้ว หลังจากการรักษาควรจะตรวจช่องท้องซ้ำทุก ๆ 6 เดือน เนื่องจากอาจมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง และหากเป็นไปได้ควรจะตรวจสุขภาพประจำปีควบคู่กันไปด้วย

ถึงแม้ว่าชื่อของโรคชนิดนี้อาจจะดูน่ากลัวไปนิด แต่ถ้าหากเจ้าของใส่ใจดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิด และเสียสละเวลาวันละนิดให้กับสุนัขก็ช่วยลดโอกาส และความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้แล้ว ซึ่งทุกคนสามารถตรวจเช็กอาการเบื้องต้นได้ง่าย ๆ โดยการลูบคลำบนตัวสุนัข และพาไปพบสัตวแพทย์เมื่อพบความผิดปกติเท่านั้นเอง

Credit kapook.com


Tagged in: Untagged 
vrcosplayx porn
web page hit counter