ทุกครั้งที่ไปป์อัพบล็อคจะเป็นเรื่องราวต่างๆจากเว็ปไซด์อื่นๆ
แต่วันนี้ไปป์จะมานำเสนอเรื่องราวของสุนัข 2 ตัวที่ได้บ้านใหม่ที่แสนอบอุ่น
รู้สึกดีใจกับ คิกเกอร์และซูโม่ ที่ได้เจอกับครอบครัวใหม่ที่รักเค้าไม่แพ้กับครอบครัวเก่าของเค้าเลย
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 ในเวลาช่วงเช้า
น้าโอ๋ หรือ คุณรัตติยา เจ้าของกิจการบ้านสุนัขและแมว Doggethome หรือ น้าของไปป์นี่เอง
ได้โทรมาถามว่า มีใครพอจะสนใจเลี้ยงสุนัข พันธุ์ปอม กับ ชิสุบ้างมั้ย ...
ไปป์เลยถามแพรว(แฟนของไปป์เอง)ว่า สนใจหรือเปล่า ? แพรวตอบทันทีว่าอยากได้
โอเคงั้นตกลง ตอนนี้ปอม ปอม ได้หาเจ้าของใหม่เจอละ ส่วนชิสุ ไปป์ได้โพสบอดแคสทั้งในบีบี
และลงในเฟสบุค ก็มีเพื่อนหลายคนสนใจเป็นอย่้างมาก และช่วงเวลาเที่ยงแทน(เพื่อนของไปป์)
ได้บีบีกลับมาว่าสนใจ ตอนแรกแทนคิดว่า เป็นลูกสุนัขชิสุ แต่จริงๆ แล้ว ชิสุ อายุได้ประมาณ 4 ขวบ
ได้แล้วมั้ง ถ้าไปป์จำไม่ผิดน่ะ เพราะพี่ทรายเจ้าของยังไม่ได้ส่งใบประวัติมาให้ สักพักต่อมาแทนตกลง
รับชิสุไปเลี้ยง แต่ก็เกิดอุปสรรคอยู่ว่า น้าเอ๋(พี่สาวของน้าโอ๋)ได้บอกเพื่อนแล้วเพื่อนได้สนใจเหมือนกัน
ไปป์เลยได้ปฏิเสษแทนไป ก็ดูแทนผิดหวังอยู่เหมือนกันแต่ก็คงเข้าใจ
ต่อมาในเย็นวันนั้นเอง น้าเอ๋กับน้าโอ๋ได้โทรมาถามไปป์อีกทีว่ามีใครสนใจชิสุมั้ย ? ไปป์ก็เลยกลับไป
ถามแทนอีกที แทนยังสนใจอยู่ และน้าเอ๋ได้ตกลงกับพี่ทรายว่าจะไปรับสุนัขทั้ง 2 ตัวในวันพรุ่งนี้เลย
ในช่วงเวลาเลิกงานของ ......
วันที่ 10 พฤษภาคม 2554
ไปป์ แพรว และน้าเอ๋ นัดกันที่เซนจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อจะไปรับสุนัขทั้ง 2 ตัว เอ้อออ ลืมบอกไปว่า
สุนัข 2 ตัวนี้มีชื่อว่า ซูโม่(ปอม) กับ คิกเกอร์(ชิสุ) เป็นตัวผู้ทั้ง 2 ตัวเลยล่ะจ้าาาาาา ...
พอเจอกันก็ได้มุ่งหน้าสู่หมู่บ้าน พร้อมภัตร บ้านของเจ้าสุนัข 2 ตัวนี้นั่นเอง เราหลงทางอยู่อยู่ซักพัก
เหมือนกัน เดี๋ยวเลย เดี๋ยวเลี้ยวก่อนบ้าง ไม่เป็นไรไม่มีปัญหา สุดท้ายก็ได้เจอตัวจริงซักที
เจอกันยังไม่ถึง 10 นาที เจ้าซูโม่ก็แผลงฤทธิ์ วิ่ง 4x100 ซะแล้ว เล่นเอานักกีฬาบาสอย่างไปป์หอบได้
เหมือนกันน่ะ มันกระโดดลงออกจากอกแพรว แล้ววิ่งไปด้วยความเร็วสูง กว่าจะจับกลับมาได้หอบเลย
ส่วนคิกเกอร์ จะเป็นหมาที่หยิ่งนิด ๆ หวงตัวหน่อย ๆ ใครจะใกล้เค้าต้องยืนนิ่ง ๆ ให้เค้าดมจนกว่าจะำพอใจ
เราคุยกับพี่ทราย เจ้าของสุนัขได้ซักพัก น้าเอ๋เข้าใจความรู้สึกของเจ้าของดีที่ต้องจากสุนัขที่รักไป
ด้วยเหตุผลที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเหมือนกัน พอขึ้นรถ เจ้า 2 ตัวนี้ เหมือนรับรู้ได้ถึงการจากลา
ซูโม่ มองไปเบื้องหลังที่มันจากมา
อย่างไม่ละสายตา จนพ้นหน้าหมู่บ้านของพี่ทรายไป
มันเริ่มมอง และเดินไม่หยุดเหมือนหมาไฮเปอร์ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว เดี๋ยวดูรถ เดี๋ยวคุ้ยตรงนั้นเขี่ยตรงนี้
ส่วนเจ้าคิกเกอร์สงสัยจะเหนื่อย
นอนบนตักไปป์สบายใจ และส่วนใหญ่ที่คิกเกอร์ตื่นก็มาจากเจ้าซูโม่
วิ่งไปวิ่งมาอยู่บนรถ นั่นแหละ เดี๋ยวเหยียบคิกเกอร์บ้างล่ะ เดี๋ยวเข้าไปเล่นบ้างล่ะ เหอะๆๆ ไม่ไหวจะเคลีย
ในคืนนั้น แทนคงรีบอยากเจอคิกเกอร์ไวไว แทนเลยมารับที่โลตัสอ่อนนุชเลย
เราถึงโลตัสอ่อนนุชกันประมาณ ทุ่มกว่า ๆ ได้ แทนได้ทำความคุ้นเคยกับคิกเกอร์ส่วนไปป์กับแพรวขึ้นไป
โลตัสไปซื้อของใ้ช้ส่วนตัวของเจ้าซูโม่เค้า ซื้อทั้ง สายจูง อาหาร ชามข้าว สารพัดที่จำเป็น
พอลงมา เห็นคนมุงรถตู้ใกล้ๆกับรถน้าเอ๋ที่จอด มารู้อีกที คิกเกอร์หลุด ไปอยู่ใต้รถตู้ และด้วยความฉลาด
ของเจ้าคิกเกอร์ เราพยายามนำเค้าออกมาจากรถตู้ เค้าจะกัดทุกคนที่ยื่นมือเข้าไป และพอเลื่อนรถตู้ไป
ทางข้างหลัง คิกเกอร์จะเดินถอยหลังตามรถตู้ไปด้วย เป็นสุนัขที่ฉลาดมาก สุดท้ายกว่าจะนำเค้าออกมา
ได้ก็ล่อไปหลายนาทีอยู่เหมือนกัน เล่นเอาเหนื่อยไปอีกครั้งนึงเลยล่ะ เห้อออออ ><
น้าเอ๋ในตอนนั้นกำลังลุกเป็นไฟ เพราะอารมณ์ฉุนแต่ก็เข้าใจเพราะที่มันหลุดแทนจะให้อาหารให้คิกเกอร์
กินแต่แล้วคิกเกอร์ก็วิ่ง ปู๊ดดดดดดดดดดดดดด !! ไปเลย - -" ในคืนนั้น น้องพลอย(น้องของแทน)
โดนกัดไป 1 แผล ส่วนไปป์ 2 แผลเลยคร้าบบบบบ T^T ไปป์ตัดสินใจให้แทนไปส่งไปป์กับแพรวที่บ้าน
เพราะน้าเอ๋จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา พอขึ้นรถปุ๊บ คิกเกอร์ก็เดินไปเดินมาซักพักก็หลับและหนุนตัก
น้องพลอย งง เลยทีเดียว เพราะตอนนั้นยังกัดเค้าอยู่เลย เป็นไปได้ว่าตอนนั้นคิกเกอร์อาจจะตื่นคน
พอถึงบ้าน คิกเกอร์กับซูโม่ก็บอกลากัน :( คืนนั้น ตอนรับน้องใหม่กันทั้งบ้าน ทั้งน้าเอ๋(น้าของแพรว) แม่
พ่อ คนแถวบ้านแพรว ตื่นเต้นกันใหญ่เลยซูโม่ไฮเปอร์มากเดินไม่หยุดพอเหนื่อยก็จะมานั่งพักหน้าพัดลม
นั่งดูทีวีซะด้วยขาหน้าสองข้างจะวางแบบนี้เสมอ
ในคืนนั้นซูโม่ ฉี่รอบบ้าน ตามเช็ดกันทั้งคืน และซูโม่ก็ไม่หลับ เดินไปเดินมา แถมเดินขึ้นข้างบนบ้าน
แต่กลับลงบันไดมาไม่ได้ ซูโม่ชอบออกไปยื่นหน้าระเบียง เมื่อคืนแม่ซักผ้า สงสัยซูโม่ออกไปช่วยแม่ตาก
ด้วยความที่เค้าไม่นอนเลยมาสะกิดแพรวให้ลุกขึ้นมาเกาพุงให้ตอนตี 1 พระเจ้าคืนนั้นเล่นไม่ได้นอน
ทั้งหมาทั้งคนเลยทีเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น ...
วันที่ 11 พฤษภาคม 2554
ซูโม่ตื่นเร็วมากเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอน ตื่นเช้ามาก็ฉี่รดไปทั่วเหมือนเดิม ไปป์เลยรีบอาบน้ำแต่งตัว
และพาออกไปเดินข้างนอกบ้าน เดินเล่น ไปฉี่ไปขี้ ด้วยความที่ขนมันยาว โอ้วแม่เจ้า ขี้ติดตูด 55555+
และเดินเหมือนหมาเดินไม่เป็นเลยทีนี้ ไปป์เลยต้องจับออกให้ เช้านี้น้องแคท(หลานพี่แพรว) ตื่นเช้า
เป็นพิเศษเพื่อมาหาเจ้าหมาไฺฮเปอร์ซูโม่ และดูแลให้ในช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน .....
ซูโม่ชอบกินไก่ย่างมาก ตอนนี้ยังปรับตัวไม่ได้ อาหารเม็ดเลยไม่ค่อยกิน จึงต้องพยายาม ผสมให้เ้ค้า
แต่สุดท้ายก็เลือกกินไก่ย่างอย่างเดียว - -" ในช่วงเวลาเย็น ไปป์กับแพรวพาซูโม่ไปอาบน้ำตอน 5 โมง
เพราะกว่าจะถึงบ้านก็เย็นแล้ว รีบกลับเข้าบ้านไปรับซูโม่ออกมา ถึงร้านก็พอดี 6 โมงแล้วล่ะ
ให้ทายว่าซูโม่ โมขนกี่ชั่วโมง ติ๊กต่อก ๆๆๆๆๆๆ ............. เกือบ 2 ชั่วโมงเลยคร้าบบบบบ !!
นั่งรอจนฝนตกหนัก จน หยุดเลย 555555+ ในช่วงเวลาที่เจ้าซูโม่ กำลังแต่งหล่ออยู่นั้น แทนได้ส่ง
รูปคิกเกอร์มาให้ดู ว่าตอนนี้หล่อแล้ว
รูปก่อน
หลังจากตัดแล้วจ้า
เหลือตัดเล็บอย่างเดียว
แทนจะเลี้ยงให้ขนยาวใหม่อีกครั้ง และ คิกเกอร์ก็จะหล่อเหมือนเดิมครับ :)
พอเวลาผ่านไป ซูโม่ออกมาในสภาพแบบนี้
รูปก่อน
หลังจากเสริมหล่อเรียบร้อย
หล่อแบบเฟี้ยวเงาะอ่ะ 5555555+
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวแทน ครอบครัวพี่แพรว กำลังหลงรักเจ้า 2 ตัวนี้โดยไม่รู้ตัวซะแล้ว
วันนี้ซื้อปลอกคอให้เจ้าซูโม่ พระเจ้าจอร์จจจจ ใส่ไม่ได้ 555+ เล็กไป ไม่เป็นไรเอาใหม่ก็ได้
ปล.
ขอบคุณ น้าโอ๋ น้าเอ๋ พี่ทราย
และ ครอบครัวที่อุปการะ ซูโม่ และ คิกเกอร์ ด้วยน่ะค่ะ
สัญญาว่าจะมีเรื่องราวของ 2 ตัวนี้มาเล่าให้ฟังอีก :)